ในยุคที่การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความนิยมในการสำรวจโลกใบนี้ การท่องเที่ยวก็เริ่มมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือการทิ้งขยะในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม แต่ท่ามกลางปัญหานี้ก็มีแนวทางใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก — นั่นคือ การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism) ซึ่งเน้นการท่องเที่ยวที่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับการช่วยเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนท้องถิ่น
การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดท่องเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวในแบบที่เราไม่ทำลายโลกและทรัพยากรธรรมชาติที่เรามีอยู่ แต่กลับส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสำคัญมากในยุคนี้ เพราะ:
1. การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า
การท่องเที่ยวในแบบที่ยั่งยืนมักให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีสติ เช่น การเลือกที่พักที่ใช้พลังงานจากแหล่งที่สามารถหมุนเวียนได้ หรือเลือกใช้พาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถไฟฟ้า แทนการใช้เครื่องบินหรือลูกเรือ
2. การสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น
การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่น โดยการสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น เช่น การเลือกที่พักในโรงแรมที่ดำเนินการโดยชาวบ้าน การทานอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่น หรือการซื้อสินค้าหัตถกรรมที่ผลิตในพื้นที่
3. การลดมลภาวะและขยะ
การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนยังรวมถึงการลดการสร้างมลภาวะจากการเดินทาง เช่น การเลือกเดินทางโดยรถบัสหรือจักรยาน การหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และการทิ้งขยะในที่ที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติ
4. การอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้จะช่วยสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การเรียนรู้และเคารพประเพณีและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น พร้อมกับการไม่ทำลายธรรมชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
1. เลือกที่พักที่รักษ์สิ่งแวดล้อม
ค้นหาที่พักที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น โรงแรมที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบการรีไซเคิลขยะ หรือมีการจัดการน้ำอย่างประหยัด
2. หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก
พยายามหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกโดยการนำถุงผ้า ขวดน้ำที่สามารถเติมใหม่ หรือเครื่องใช้ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ไปเอง
3. เลือกการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หากเดินทางระยะสั้นในเมือง ให้เลือกการเดินทางโดยการเดินเท้า การใช้จักรยาน หรือการใช้รถสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถบัสหรือรถไฟฟ้า
4.ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เลือกท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติหรือสวนสัตว์ที่มีการอนุรักษ์และจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เช่น การเยี่ยมชมป่าเขตร้อนที่มีการจัดการป่าอย่างรับผิดชอบ หรือการท่องเที่ยวในสถานที่ที่เน้นการฟื้นฟูธรรมชาติ
5.สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น
การเลือกซื้อสินค้าหรือทานอาหารจากธุรกิจท้องถิ่นไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ แต่ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่มีความจำเป็นในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของตน
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (ไทย)
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในประเทศไทย โดยมีการดำเนินการฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศของอุทยานอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมสามารถร่วมกิจกรรมเช่น การปลูกต้นไม้ และเรียนรู้วิธีการอนุรักษ์ธรรมชาติ
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในโซล (เกาหลีใต้)
กรุงโซลเป็นตัวอย่างของเมืองที่มีกระแสการท่องเที่ยวยั่งยืนเติบโตขึ้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับประเพณีท้องถิ่นและการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเก่าแก่ เช่น การเรียนรู้การทำอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม
หมู่บ้านมองก์ (ฝรั่งเศส)
หมู่บ้านมองก์ในฝรั่งเศสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน มีการใช้พลังงานหมุนเวียนและเน้นการท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทำสวนหรือเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างสมดุล
ในอนาคต เราคงจะเห็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวหลักทั่วโลก นักท่องเที่ยวเองก็เริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้โลกใบนี้ยังคงมีความสวยงามและสดใสให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส
หากคุณกำลังมองหาที่จอดรถสะดวกๆ ใกล้สถานี MRT รามอินทรา เพื่อการเดินทางที่สะดวกและลดการใช้พลังงานในการเดินทาง ขอแนะนำสถานที่จอดรถที่ใกล้เคียง
🏠 S.K.Resort คู้บอนซอย 6 ก.ม.8
🎯 ที่จอดรถสะดวก สบาย มั่นใจความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
มีระบบกล้อง CCTV ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า เช่น บิ๊กซี แฟชั่นไอส์แลนด์
การเลือกจอดรถใกล้สถานี MRT ไม่เพียงแค่ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานจากการขับรถและช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้อีกด้วย